ขั้นตอนการทำกระดาษสา
1 : การคัดเลือกวัตถุดิบ
คัดเลือกเปลือกปอสาแห้งที่อ่อนและแก่แยกจากกัน ถ้าเปลือกปอสามีความยาวมากให้ตัดเป็น ท่อน ท่อนหนึ่งยาวไม่เกิน 1.00 เมตรนำไปแช่น้ำ ประมาณ 3 ชั่วโมงขึ้นไปแต่ไม่ควรเกิน 24 ชั่วโมง การ แช่น้ำจะช่วยให้เปลือกปอสาอ่อนตัว
2 : การต้ม
จากนั้นนำเปลือกปอสาที่อ่อนตัวไปใส่ภาชนะต้มใส่โพแทสเซียมไฮดรอกไซด์หรือน้ำด่าง จากขี้เถ้าเพื่อช่วยให้โครงสร้างของเปลือกปอสาเปื่อยและแยกจากกันเร็วขึ้น ถ้าต้มเปลือกปอสาอ่อน ใช้โพแทสเซียมไฮดรอกไซด์น้อย ต้มเปลือกปอสาแก่ต้องใช้มากขึ้น การต้มแต่ละครั้งใช้โพแทสเซียม ไฮดรอกไซด์ประมาณ 10 % ของน้ำหนักเปลือกปอสาแห้ง ถ้าใช้มากไปจะทำให้เยื่อสาถูกทำลายมาก ในระหว่างต้ม ต้มนานประมาณ 2-3 ชั่วโมง เมื่อต้มเสร็จแล้วนำปอสาล้างน้ำจนหมดด่าง (ในการล้าง ปอสานี้ควรล้างอย่างน้อย 3 ครั้ง)
3 : การทำเป็นเยื่อ
ทำได้ 2 วิธี คือ
3.1 ทุบด้วยมือ
การทุบด้วยมือต้องใช้ เวลานาน ปอสาหนัก 2 กก. ใช้เวลาทุบนาน ประมาณ 5 ชั่วโมง การทุบ ปอสานั้นให้ทุบเบาๆ ไม่ต้องออกแรงมากนัก จุดประสงค์ของการทุบปอสาคือ เพื่อแยกเส้นใยปอให้ออก จากกันเป็นเยื่อกระดาษ เท่านั้นหลังจากทุบจนคะเนว่าใช้ได้แล้วให้ลอง เอาเยื่อไปละลายน้ำดู ถ้าเห็นว่า เยื่อแยกออกจากกัน โดยไม่จับกันเป็นกระจุก เยื่อมีเส้นสม่ำเสมอเท่ากันก็เป็นอันว่าใช้ได้
3.2 การใช้เครื่องตีเยื่อ
การใช้เครื่องตีเยื่อสามารถตีเยื่อปอสาจำนวน 2 กก.ให้กลายเป็นเยื่อได้ในเวลา 35 นาที ซึ่ง เครื่องตีเยื่อมีประสิทธิภาพในการตีเยื่อได้เร็ว กว่าการทุบด้วยมือถึง 8 เท่า
ลักษณะปอสาซึ่งถูกตีให้เป็นเยื่อแล้ว
4 : การฟอกเยื่อสา
เยื่อกระดาษสาทั่วไปมักฟอกไม่ขาวนัก แต่ถ้าต้องการให้กระดาษสาสีขาวมากๆก็ใช้ผงฟอกสี เข้าช่วย ได้แก่ Sodium hypo chloride หรือ Calcium hypo chloride ประมาณ1:10 โดยน้ำหนักผสม ในเครื่องตีเยื่อ ฟอกนานประมาณ 35 นาที ถ้าไม่มีเครื่องตีเยื่อก็ใช้น้ำยาฟอกเข้มข้น 15 กรัม : น้ำ 1 ลิตร แช่เยื่อสาลงในน้ำยาฟอกนานประมาณ 12 ชั่วโมง นำเยื่อสาไปล้างน้ำจนหมดกลิ่นน้ำยา แล้วจึงนำเยื่อ สาไปย้อมสีตามต้องการ
โซเดียมไฮเปอร์คลอไรด์
5 : การย้อมสีเยื่อสา
ถ้าต้องการทำกระดาษสาเป็นสีต่างๆจะต้องนำเยื่อสาไปย้อมสีก่อนการทำเป็นแผ่นกระดาษ การย้อมสีทำได้ 2 วิธี คือ
5.1 ย้อมในเครื่องตีเยื่อ
1. นำเยื่อสาที่ฟอกขาวแล้วใส่ลงในเครื่องตีเยื่อและใส่นำลงไป 2. ละลายสีกับนำเพียงเล็กน้อยให้มีลักษณะเป็นน้ำสีข้นๆ 3. เดินเครื่องตีเยื่อและค่อยๆเติมน้ำสีลงไปทีละน้อยจนสีติดเยื่อสาทั่ว จะให้สีอ่อนหรือแก่ก็แล้วแต่ ความต้องการ 4. ถ่ายเยื่อสาออกจากเครื่องตีเยื่อ ปล่อยน้ำทิ้งไป นำเยื่อสาใส่ภาชนะไว้เพื่อเตรียมไว้ทำเป็นแผ่น กระดาษต่อไป
5.2 การย้อมสีโดยการต้ม
1. ละลายสีย้อมผ้าในน้ำในถังต้มที่เตรียมไว้ รอให้น้ำเดือด 2. นำเยื่อสาที่ฟอกขาวแล้วลงไปต้ม ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง 3. นำเยื่อสาที่ต้มจนเกิดสีตามต้องการออกมาล้างน้ำให้ 4. สะอาดประมาณ 3 ครั้งจนแน่ใจว่าสีไม่ติดมือ
6 : การใช้น้ำยางผสมกับเยื่อ ในขั้นตอนกระจายเยื่อ การทำกระดาษสาคุณภาพดีจะต้องใส่น้ำยางที่ได้จากฝักกระเจี๊ยบสดลงไปในถังช้อนกระดาษ เพื่อให้น้ำยางจากฝักกระเจี๊ยบเข้ากับเยื่อสา
ขั้นตอนการกระจายเยื่อ
นำเยื่อปอสาใส่ในอ่างหรือภาชนะที่เหมาะสม ใส่น้ำให้มีระดับพอเหมาะเติมน้ำยางกระเจี๊ยบ แล้วใช้ไม้พายคนเยื่อในอ่างน้ำให้ทั่ว เพื่อให้ เยื่อลอยตัวและกระจายออกจากกันอย่างสม่ำเสมอ
น้ำยางจากฝักกระเจี๊ยบสดมีคุณสมบัติพิเศษ ดังนี้
1. ทำให้เยื่อสาลอยตัวและเยื่อกระจายออกจากกันโดยสม่ำเสมอ ซึ่งทำให้การช้อนแผ่น กระดาษได้เนื้อกระดาษที่มีความหนาบางสม่ำเสมอดีกว่าไม่ใส่น้ำยาง
2. ช่วยให้การช้อนแผ่นกระดาษง่ายขึ้น เพราะน้ำยางมีความลื่น
3. น้ำยางจะทำให้แผ่นกระดาษที่วางซ้อนกันในเวลาช้อนขึ้นจากถังไม่ติดกันและสามารถ ลอกออกจากกันได้ทีละแผ่น
หมายเหตุุุุุุุุุุุุ ถ้าต้องการกระดาษบางให้ใส่น้ำยางมาก และถ้าต้องการกระดาษหนาให้ใส่น้ำยางน้อย
7 : การทำเป็นแผ่นกระดาษ
อุปกรณ์การทำแผ่นกระดาษ ถังช้อนแผ่นกระดาษ ตะแกรงช้อนแผ่นกระดาษ
วิธีทำเป็นแผ่นกระดาษ ทำได้ 2 วิธี คือ 7.1 แบบช้อน
ใช้แม่พิมพ์ซึ่งมีลักษณะเป็นตะแกรงไนล่อนขนาดกว้าง 50 ซม.ยาว 60 ซม. (ขนาดตะแกรงขึ้น อยู่กับขนาดกระดาษที่ต้องการ) ช้อนตักเยื่อเข้าหาตัวยกตะแกรงขึ้นตรงๆแล้วเทน้ำออกไปทางด้านหน้า โดยเร็วจะช่วยให้กระดาษมีความสม่ำเสมอ
7.2 แบบแตะ ใช้ตะแกรงที่ทำจากผ้าใยบัวหรือผ้ามุ้งซึ่งมีเนื้อละเอียด และใช้วิธีชั่งน้ำหนักของเยื่อสาเป็นตัว กำหนดความหนาของแผ่นกระดาษ นำเยื่อใส่ในอ่างน้ำใช้มือแตะเกลี่ยกระจาย เยื่อบนแม่พิมพ์ให้สม่ำ เสมอ
8 : การตากให้แห้ง
นำตะแกรงที่ช้อนเยื่อกระดาษแล้วไปวางพิงกันตากแดดโดยวางเป็นหมู่ๆละ 4 ตะแกรง โดยวาง ตะแกรงทำมุม 70 องศา ซึ่งจะทำให้กระดาษที่ตากแห้งเร็วกว่ามุม 45 องศาเนื่องจากน้ำไหลลงข้างล่าง เร็วกว่านั้นเองนำตะแกรงไปตากแดดประมาณ 1-3 ชั่วโมง กระดาษสาจะแห้งติดกันเป็นแผ่น
9 : การลอกแผ่นกระดาษ
เมื่อกระดาษที่นำไปตากแห้งสนิทดีแล้วให้ลอกกระดาษสาออกจากตะแกรงช้อนแผ่นกระดาษ และนำกระดาษสาที่ลอกแล้วมาซ้อนกันเป็นพับๆละ 50 แผ่น เพื่อเตรียมการจำหน่าย (เปลือกปอสาหนัก 1 กก. สามารถทำกระดาษสาได้ประมาณ 10 แผ่น )
10 : การคัดเลือกและการบรรจุกระดาษสา
กระดาษสาที่แกะออกจากตะแกรงลวดตามปกติจะมีสีขาวขุ่นๆเนื้อกระดาษไม่เรียบ มีลวดลาย เยื่อไม้อยู่ในแผ่นกระดาษ มีความหนาบางเท่ากัน ถ้าย้อมสี สีจะสม่ำเสมอกันตลอดแผ่น ไม่เป็นรอยด่าง
ก่อนการนำจำหน่ายจะต้องคัดเลือกเอากระดาษที่เสียออก ( ส่วนมากมักจะขาดที่ริม มีรู สีด่าง ) เรียงกระดาษที่ดีซ้อนกันเป็นพับๆละ 50 แผ่น แล้วมัดรวมกันเป็นมัดๆละ 10 พับ ( 500 แผ่น )
คุณสมบัติพิเศษของกระดาษสา
คุณสมบัติพิเศษของกระดาษสาเกิดมาจากวัตถุดิบปอสา ซึ่งเป็นพืชที่มีเยื่อเป็นเส้นใยยาว มีความเหนียวมาก สามารถนำมาแปรสภาพโดยการทุบตีเยื่อไม้ เพื่อนำมาทำเป็นเยื่อกระดาษ ทำเชือก หรือใช้เป็นเยื่อผสมปูนขาว ปูนปลาสเตอร์ในการหล่อผลิตภัณฑ์ โดยเสริมความแข็งแรงคงทนให้แก่ตัว ผลิตภัณฑ์นั้นๆได้
สำหรับกระดาษสานั้นเป็นกระดาษที่แปรสภาพมาจากการทุบเยื่อไม้บริสุทธิ์ให้กระจาย ออกและยังคงรักษาคุณภาพของเยื่อกระดาษเป็นเส้นใยเกาะประสานกันอย่างเหนียวแน่น มีความนุ่ม ทน ทานเก็บไว้ได้นานนับร้อยปี โดยไม่มีการผุกร่อน แตกหัก แห้งกรอบ อีกทั้งเนื้อกระดาษสาไม่มีการผสม พวกแป้งหรือดินขาว แมลง ปลวก มอดจึงไม้ชอบกัดแทะ ซึ่งสิ่งนี้เป็นคุณสมบัติดีเด่นของกระดาษสาที่ กระดาษชนิดอื่นๆไม่มี
ในด้านสิ่งแวดล้อมนั้นเศษกระดาษสาที่เหลือจากการทำผลิตภัณฑ์สามรถนำมาหมุนเวียน ใช้ใหม่ได้ โดยนำไปแช่น้ำและตีเยื่อทำเป็นกระดาสาแผ่นใหม่ นอกจากนี้ กระดาษสายังสามารถย่อย สลายให้กลับเป็นปุ๋ยในดิน หรือเป็นอาหารของพืชได้อีกด้วย
|